ความร่วมมือ
เครื่อข่ายความร่วมมือ
        จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  องค์การบริหารส่วนตำบลช้างแรก และเครือข่ายวิถีเกษตรธรรมชาติ รวมกับเกษตรกรบางสะพานน้อยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดตั้ง "กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ ตะนาวศรี" เพิ่มช่องทางสร้างรายได้นอกเหนือจากการปลูกยางพารา มะพร้าว ปาล์ม และเน้นเกษตรกรที่ปลูกโกโก้ต้องปลอดสารเคมี 100% เพื่อสร้างจุดขายจุดแข็งของกลุ่ม    
  
        นายนันทปรีชา คำทอง ประธานเครือข่ายวิถีเกษตรธรรมชาติ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทางเครือข่ายมีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ ตะนาวศรี ขึ้นมาเมื่อปี 2565 เพื่อรวมกลุ่มเกษตรกรที่ทำสวนและมีการปลูกโกโก้ มีสมาชิกปลูก 2 หมื่นต้น แต่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วประมาณ 2,000 ต้น หรือประมาณ 10% เพื่อนำผลผลิตทั้งที่เป็นผลสดสามารถจำหน่ายได้ในราคาดี จะอยู่ที่ 12 บาท/กิโลกรัม ส่วนช่วงนี้ราคาทั้งลูกใหญ่ลูกเล็กอยู่ที่ 6 บาท/กิโลกรัม      
 
        โดยนอกจากขายผลสดแล้วทางกลุ่มยังนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์โกโก้ซึ่งบรรจุหีบห่ออย่างดี มีทั้งผงโกโก้ ขนาด 100 กรัม ราคา 150 บาท โกโก้นิบส์ ขนาด 100 กรัม ราคา 100 บาท นำไปรับประทานได้เลยเช่นกัน และโกโก้ผงบรรจุกระป๋องขนาด 125 กรัม ราคา 200 บาท เอาไปชงดื่มได้
 
        “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ ตะนาวศรี” เราได้รับการสนับสนุนจากทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ส่งวิทยากรเข้ามาให้คำแนะนำด้านต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์โกโก้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ ตะนาวศรี เป็นที่รู้จักในตลาดของผู้บริโภคต่อไป ส่งสำคัญเป็นช่องทางการส่งเสริมรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกโกโก้และกลุ่มอีทางหนึ่งด้วย นอกจากนั้น ต้นโกโก้ยังสามารถจำหน่ายได้อีกทาง สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์แปรรูปโกโก้ ติดต่อได้ที่เบอร์  09-9153-5788  
 
        ด้านนายเชิดชัย นุ่มแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านหินปิด ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ ตะนาวศรี กล่าวว่า กลุ่มมีสมาชิก 30 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ทำการเกษตร ส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัว พึ่งพาตนเองจากป่าชุมชน บ้านหินปิด โดยชาวบ้านเริ่มมีการปลูกโกโก้แซมลงในในสวนยางพารา สวนมะพร้าวบ้าง ซึ่งทางกลุ่มเน้นการปลูกโกโก้ปลอดสารเคมีแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ ตะนาวศรี มีจุดเด่นในการทำการตลาด      
 
        โดยทางกลุ่มมีการแบ่งหน้าที่เป็นฝ่ายต่างๆ ทั้งฝ่ายจัดซื้อวัตถุดิบ ฝ่ายผลิต ฝ่ายบรรจุภัณฑ์ ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบัญชี โดยสมาชิกแต่ละรายมีการลงหุ้นกันในการจัดตั้งกลุ่ม คนละ 2 พันบาท ซึ่งปัจจุบันส่วนหนึ่งทางกลุ่มมีเครื่องมือขนาดเล็กแต่สามารถที่จะทำผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายตามออเดอร์ หรือเวลามีการเข้ามาศึกษาดูงานจากท้องถิ่นจังหวัดอื่นๆ ซึ่งโกโก้ถือเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในปัจจุบันไม่แพ้กาแฟ ซึ่งในอนาคตที่นี่จะกลายเป็นศูนย์เรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะเชื่อมโยงกับแก่งหินปิดต่อไป      
   
         ซึ่งเกษตรกรชาวสวนใน ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวด้วยว่าการตัดสินใจปลูกโกโก้แซมในสวน ถึงแม้บางส่วนเก็บเกี่ยวผลผลิตได้บ้างเพราะอายุ 3 ปี นำไปส่งขายผลสดให้กลุ่มนำไปแปรรูปบางส่วนยังไม่ได้ให้ผลผลิตเพราะอายุยังไม่ถึง บางสวนปลูกไว้ 100-200 ต้นก็มีแล้วแต่ละพื้นที่ โดยที่โกโก้เป็นพืชให้ผลผลผลิตได้อย่างน้อย 10 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแล สิ่งสำคัญเรามีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ ตะนาวศรี รับซื้อตามราคาตลาดทำให้ชาวสวนมีกำลังใจมากขึ้น อย่างน้อยจะมีรายได้นอกเหนือจากสวนยาง มะพร้าว และปาล์ม โดยมุ่งหวังว่าในอนาคตผลิตภัณฑ์โกโก้ของกลุ่ม ตลาดผู้บริโภคน่าจะขยายตัวเป็นที่รู้จักต่อไป      
 
         ขณะเดียวกัน น.ส.สกาวรัตน์ กษมาประพฤทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวยอมรับว่า เครือข่ายวิถีเกษตรธรรมชาติ บางสะพานน้อย ได้ต่อยอดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโกโก้ ตะนาวศรี ขึ้นมาถือเป็นเรื่องที่ดีมาก สิ่งสำคัญกลุ่มนี้ต้องการเห็นว่าผลผลิตที่ปลูกและเก็บมาแล้วสามารถนำไปแปรรูปได้ หรือแปรรูปแล้วรสชาติออกมาอย่างไรอย่างน้อยปลูกกินในสิ่งที่เราปลูกได้ ซึ่งเรามาต่อยอดสิ่งต่างๆ ที่กลุ่มอยากรู้ จนปัจจุบันนี้ทางกลุ่มมีผลิตภัณฑ์โกโก้แปรรูปจากสวนของตนเองออกสู่ท้องตลาดได้ไม่แพ้ที่อื่น และจุดแข็งที่นี่คือผลผลิตโกโก้ปลอดสารเคมี สิ่งสำคัญทำให้เห็นได้ว่ายุทธศาสตร์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนหนึ่งคือการสร้างพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นนั้นทำได้ในแต่ละครอบครัว เช่น ปลูกพืชผสมผสานในแต่ละครอบครัวนั้นสามารถทำได้ เพราะโกโก้สามารถปลูกแซมลงในสวนยาง สวนมะพร้าว สวนปาล์ม และสร้างรายได้ ซึ่งต้องบอกว่าโกโก้ผลสดกอนได้ แปรรูปนำมาคั่วเป็นเม็ด นำมาบดเป็นผง ทุกอย่างกินได้หมด และมีประโยชน์